แบร้ด สตีเว่นส์ ปธ.บาสฯฝ่ายปฏิบัติการ บอสตัน เซลติคส์ ยอมรับว่าบรรยากาศในทีมตอนนี้แย่มากจากกรณีอื้อฉาวของเฮดโค้ช ไอเม่ อูโดก้า โดยขอความร่วมชาวเน็ตอย่าขุดคุ้ยมั่วซั่วว่าสตาฟฟ์คนไหนเป็นคู่กรณีเพราะไร้มูลความจริง
อูโดก้า โดนห้ามปฏิบัติหน้าที่ตลอดฤดูกาล 2022-23 ตามแถลงการณ์ของทีมมีผลทันที ด้วยสาเหตุละเมิดหลักปฏิบัติองค์กรอย่างร้ายแรง แต่ไม่เจาะจงว่าคือด้านใด
ทั้งนี้รายงานเพิ่มเติมจาก ‘ดิ แอธเลติค เอ็นบีเอ’ ว่าเพราะบอสวัย 45 ปีไปสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสตาฟฟ์ในองค์กร ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกทราบระแคะระคายเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งเฮดโค้ชประสบการณ์ 1 ปีออกมายอมรับโดยไม่ต้องการพาดพิงคู่กรณี ทางต้นสังกัดก็ยินดีจะสอบสวนเป็นการภายใน
ซึ่งงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (ท้องถิ่น) สตีเว่นส์ ประกาศแต่งตั้ง โจ มาซซัลล่า จากตำแหน่งผู้ช่วยขึ้นรักษาการไปพลางๆ
“เอาตรงๆนี่คือช่วงเวลายากลำบาก” สตีเว่นส์ กล่าวแบบน้ำตาคลอเบ้าเคียงข้าง วิค กรูสเบ็ค เจ้าของแฟรนไชส์
“A lot of people were dragged into that unfairly.”
Celtics President of Basketball Operations Brad Stevens had some strong feelings about the female staffers being dragged into the social media conversation. pic.twitter.com/Q2IvR7VGeZ
— Celtics on NBC Sports Boston (@NBCSCeltics) September 23, 2022
“กระแสเชื่อมโยงสตาฟฟ์สตรีของเราทางทวิตเตอร์ เป็นเรื่องงี่เง่าที่ร้ายแรงมาก หลายคนถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม”
“คิดว่าสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้ช่างยากลำบากเหลือเกิน แต่ก็ต้องเดินหน้ากันต่อแน่วแน่ในสิ่งที่จำเป็นต้องมีสมาธิกับมัน เพื่อให้ทุกคนพร้อมสำหรับปฏิทินฤดูกาลใหม่อังคารที่จะถึง”
“ผมยังเชื่อว่าเราสามารถผ่านพ้นไปได้ แต่ขณะเดียวกันจะไม่ยอมเพิกเฉยต่อความจริงสะเทือนความรู้สึกต่อคนทำงานทุกคนที่นี่”
ตีความระหว่างบรรทัดหากการสอบสวนภายในพบว่า อูโดก้า บกพร่องร้ายแรงจริงอาจบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนั่นอาจทำให้เขาหมดอนาคตสำหรับวงการเอ็นบีเอ
สำหรับ มาซซัลล่า โค้ชรักษาการวัยแค่ 34 ปี ทาง สตีเว่นส์ เผยว่าไม่ปล่อยให้เผชิญบททดสอบหนักเพียงลำพังเพราะเขาจะลงมาช่วยประคองในระหว่างตั้งไข่ ฐานะลูกพี่เก่าที่ดึงกุนซือหนุ่มสู่สตาฟฟ์เองเมื่อปี 2019