ฟิล ไนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งผลิตภัณฑ์กีฬา ไนกี้ แสดงความเห็นระหว่างไปร่วมสัมภาษณ์ ซีเอ็นบีซี เครือข่ายโทรทัศน์สหรัฐฯว่าคงเป็นการดีสุดที่แบรนด์จะยุติความสัมพันธ์กับผู้เล่นเจ้าปัญหาอย่าง คายรี่ เออร์วิ่ง การ์ด บรู้กลิน เน็ตส์ เพราะกรณีล่าสุดขัดหลักการสำคัญของตราสวูช
ต้นเหตุจาก เออร์วิ่ง เคลื่อนไหวทางโซเชียล มีเดีย จุดกระแสความเกลียดชังชาวยิวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยแม้จะลบทวีตดังกล่าว และออกมากล่าวขอโทษทางอินสตาแกรม แต่ดูเหมือนผลลัพธ์ที่ตามมาค่อนข้างหนัก
ทั้งการถูกบังคับบริจาค 500,000 เหรียญ สหรัฐฯ ให้องค์กรการกุศลซึ่งมีวัตถุประสงค์ขจัดความเกลียดชังระหว่างคนต่างเชื้อชาติ, ต่างศาสนา, โทษแบนโดยไม่ได้รับค่าเหนื่อย 5 เกม คิดเป็นเงิน 2.25 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ
เกี่ยวกับแบรนด์ ไนกี้ ขอระงับความสัมพันธ์เรื่องเงินสนับสนุน และชะลอการคลอดรองเท้าซิกเนเจอร์ คายรี่-8 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ปณิธานสำคัญที่ผลิตภัณฑ์กีฬาตรา ‘สวูช’ เน้นย้ำเสมอคือเคารพความหลากหลายทุกอย่างทั้งเชื้อชาติ, สีผิว, ศาสนา, เพศสภาพและอุดมการณ์ แต่เมื่อหนึ่งในนักกีฬาที่พวกเขาสนับสนุนเกิดละเมิดกฎร้ายแรง มิสเตอร์ไนท์ ก็มองว่าทางใครทางมันดีกว่า
"John Donahoe is the CEO at Nike, he's probably a little bit to my left, but not far, there's not an ocean of distance between us and he's the best CEO in the industry," says Phil Knight. "I don't expect everybody to agree with me, and I'm fine the way things are." pic.twitter.com/H16RqAshO8
— Squawk Box (@SquawkCNBC) November 10, 2022
“คายรี่ ล้ำเส้น มันก็สรุปง่ายๆแบบนั้น” คุณปู่วัย 84 ปีที่ยังสติแจ่มใสกล่าว
“เขาออกตัวแรงในเรื่องที่เราไม่สามารถทนได้อีก นั่นคือสาเหตุที่ต้องขอยุติความสัมพันธ์ และผมก็ไม่มีปัญหาเรื่องนั้น”
ยิ่งกว่านั้นอดีตนักกรีฑามหาวิทยาลัยที่มาเอาดีเรื่องการผลิตรองเท้าก็เสริมอีกว่าคงไม่กลับไปร่วมงานการ์ดวัย 30 กะรัตอีกในอนาคต
“ไม่แน่ใจว่าจะกลับไปร่วมงานกันอีกได้ไหม – แต่ที่แน่ๆคือไม่กล้ายืนยัน”
ออล-สตาร์ 7 สมัยเข้ามาเป็นครอบครัว ไนกี้ เมื่อปี 2011 จากนั้นสามปีมีรองเท้าซิกเนเจอร์ของตัวเองแถมเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีของแบรนด์ ว่ากันว่าค่าสปอนเซอร์-ต่อ-ปีสูงถึง 11 ล้านเหรีญ สหรัฐฯ